วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ถึงเวลาของระบบ Diskless Windows 7 64-bit แล้วหรือยัง ?

คงเป็นคำถามคาใจของหลายๆท่านว่าตอนนี้ระบบ Diskless หรือที่เรียกกันติดปากว่า No Harddisk มันใช้ Windows 7 64-bit ได้หรือยัง จะช้ามั้ย จะเล่นเกมส์ออนไลน์ได้มั้ย โปรแกรมต่างๆที่เคยใช้จะยังใช้ได้อยู่มั้ย เช่นเคย ผมจะเอาประสบการณ์ส่วนตัวล้วนๆที่ได้วางระบบ Diskless Windows 7 64-bit มาเล่าให้ฟังครับ แต่ก่อนอื่นมาดูข้อดีของ Windows 7 64-bit ก่อนดีกว่า

Diskless Windows 7 64-bit

ข้อดีของ Windows 7 64-bit

- ใช้แรมได้มากกว่า 3 GB หลุดพ้นเสียทีกับข้อจำกัดของ 32-bit เพราะโปรแกรมและเกมส์สมัยนี้ก็อัพเดทตาม Hardware ครับ ยิ่งเกมส์ใหม่ๆ หรือเกมส์ฮิตอย่าง HoN แนะนำว่า 4 GB เป็นอย่างต่ำเลยครับ แล้วมันรองรับแรมได้กี่ GB ล่ะ (จะได้เอาไว้เถียงกับคนอื่นบ้าง อิอิ) Microsoft บอกไว้ตามนี้ครับ

Diskless Windows 7 64-bit


- เกมส์สมัยใหม่ออกแบบให้เล่นบน Windows 7 เสียเป็นส่วนใหญ่ สำหรับ Windows XP ยังเล่นได้แต่ไม่ 100% จะเห็นในเกมส์ HoN ที่ขึ้น Error K2 บ่อยๆ หรือเกมส์ Divine Warrior Online จะเกิด Blue Screen มาทักทายเป็นบางสเป็ค และอย่าคิดว่าโปรแกรมเมอร์ หรือผู้พัฒนาเกมส์จะย้อนมาแก้ให้สมบูรณ์ 100% กับ Windows XP เพราะมันไม่คุ้มค่ากับ Windows ที่เลิกพัฒนาแล้ว (ขออภัย หากแทงใจดำ) แต่ถ้าเป็นการแก้ Bug บน Windows 7 หรือ Windows 8 อันนี้มีลุ้นสูงครับ

- ลื่นไหล แต่ก่อนผมคิดว่า Windows XP ลื่นสุด แต่ปัจจุบัน Windows 7 64-bit ลื่นกว่าครับ อาจเป็นเพราะชุดคำสั่งต่างๆที่ Optimize มาโดยเฉพาะหรือเปล่า ก็คงต้องว่ากันตามสเป็คของ Hardware และเกมส์กันไป

ถึงเวลาตอบคำถาม  ถึงเวลาของระบบ Diskless Windows 7 64-bit แล้วหรือยัง ? ตอบแบบฟันธงเลยครับ ว่าถึงเวลาแล้ว จากการวางระบบล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้ว (ตุลาคม 2013) จนถึงวันนี้เกือบ 2 เดือน ระบบราบรื่นดีมากครับ คุณสมบัติต่างๆของ Windows 7 64-bit ถูกนำมาใช้ได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็น TRIM, Write-Caching, Client RAM 4 GB เกมส์ออนไลน์ที่ผมได้ทดสอบเกือบ 100 เกมส์ เล่นได้ดีทุกเกมส์ ส่วนโปรแกรมคุมร้านเวอร์ชันเก่าๆ ส่วนใหญ่ใช้ไม่ได้นะครับ ต้องใช้เวอร์ชันใหม่ๆหน่อย การล็อกเครื่อง หยุดเวลาทำได้ดีเหมือน Windows XP เสียงตอบรับจากเจ้าของร้านและลูกค้าที่มาใช้บริการ Happy ครับ

หวังว่าบทความ ถึงเวลาของระบบ Diskless Windows 7 64-bit แล้วหรือยัง ? จะช่วยยืนยันและทำให้หายสงสัยในระบบ Diskless Windows 7 64-bit ว่าของเค้าดีจริง ลื่นจริง นิ่งจริง จากผู้ใช้งานจริง หากมีโอกาสอัพเดทระบบก็อย่าลืมที่ก้าวไปข้างหน้านะครับ เพราะโลกไม่หยุดหมุน เราจึงต้องก้าวต่อไป

ฝาก Facebook Fanpage เช่นเคย ติดตามบทความกันได้นะครับ

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ครบรอบ 1 ปี i Like Cafe

สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน ครบ 1 ปีสำหรับบล็อก i Like Cafe สำหรับปี 2013 นี้ในแวดวงผู้ประกอบการร้านเน็ตผมมองว่าทรงตัว อาจไม่หวือหวาเท่าสมัยที่ร้านเน็ตบูมๆ แต่ก็ยังทำกำไรอย่างต่อเนื่อง (ข้อมูลจากร้านลูกค้าผมเอง) ถ้าสังเกตจะเห็นว่าจำนวนร้านเน็ตลดลง เรามาลองวิเคราะห์เล่นๆกันครับว่ามีสาเหตุอะไรบ้างที่ต้องทำให้ปิดกิจการ

ครบรอบ 1 ปี i Like Cafe

สาเหตุที่ต้องปิดกิจการ

1. ขาดทุน อันนี้ชัวร์สุดครับ ลองขาดทุนซัก 3 เดือนก็ประกาศเซ้งเป็นแน่แท้ การขาดทุนเกิดจากรายได้ที่เข้ามาต่อเดือนน้อยกว่ารายจ่าย ส่วนใหญ่ก็มาจากลูกค้าน้อยลง แล้วมันน้อยลงเพราะอะไรเอ่ย
   1.1 เดี๋ยวนี้คอมพิวเตอร์ราคาถูก อินเตอร์เน็ตมีทุกบ้าน เป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ร้านเน็ตก็มีจุดแข็งกว่า ซึ่งเราเอามาใช้ประโยชน์ได้ เช่น
      1.1.1 เครื่องแรงกว่าตามบ้าน หมดยุคของร้านเน็ตกากๆแล้วครับ ขอเถอะที่ประกอบเครื่องถูกๆ แล้วหวังจะให้ลูกค้ามาเล่นเต็มร้านทั้งๆที่เล่นที่บ้านแรงกว่า เพราะฉะนั้นทำธุรกิจต้องกล้าลงทุนทำเครื่องให้เล่นได้ลื่น เคยเล่นมั้ยครับ ภาพ Full HD 1080p ตั้งค่าการแสดงผลแบบสูงสุด จอ 23-24 นิ้ว แบบนี้สวรรค์ของคนเล่นเกมส์เลยครับ
      1.1.2 เน็ตแรงกว่าตามบ้าน ตอนนี้ความเร็วอินเตอร์เน็ตพื้นฐานตามบ้านอยู่ที่ 10 Mbps แล้วเราจะเอาเน็ตความเร็วเดียวกับตามบ้านมาให้ลูกค้าเล่นเหรอครับ แถมต้องแชร์กันอีกเป็นสิบๆเครื่อง (โอ้วไม่นะจอร์จ) จัดไปสิครับ เน็ตเคเบิ้ล เน็ตไฟเบอร์ 30 - 100 Mbps อยากโหลดอะไรก็จัดไป ส่วนสายเกมส์ยังเน้นที่ค่าอัพโหลดสูงๆอยู่นะครับ
      1.1.3 บรรยากาศการเล่นเกมส์ บอกตรงๆเล่นร้านมันส์กว่าเยอะครับ เพื่อนเพียบ เล่นอยู่บ้านคนเดียวเหงาตาย แถมเล่นร้านไปไวกว่าด้วย ติดเควสไหน ก็ช่วยๆกันไป ถ้ารอเพื่อนในเกมส์มีก็ดีไป ไม่มีก็รอต่อไป

2. เบื่อปัญหาร้านเน็ต บางคนทำร้านแล้วไม่ชอบคนเยอะ เสียงดัง ปัญหานู่น นี่ นั่น แล้วอยากเลิก อันนี้ช่วยไม่ได้ครับ แนะนำว่าเลิกก็ดีครับถ้าไม่มีใจรักทางด้านนี้แล้ว ทำอย่างอื่นที่ตัวเองชอบดีกว่าครับ แต่ถ้าใจรักแล้วอยากแก้ปัญหา ลองมาดูตัวอย่างกันครับ
   2.1 ลูกค้าเสียงดังรบกวนคนอื่น ก็ติดป้าย ไม่ก็เดินไปบอก แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง ต้องรู้จักถนอมน้ำใจ พูดจาให้น่าฟัง อย่าถืออีโก้สูงคิดว่าเป็นเจ้าของร้านจะทำยังไงก็ได้ เพราะสุดท้ายรายได้ของคุณก็มาจากลูกค้าเหล่านี้
   2.2 ปัญหาเน็ตเสียบ่อย บางทีเราอยู่ในบางพื้นที่อาจได้รับบริการจาก isp บางเจ้าที่ไม่ดี ก็ลองร้องเรียนไปศูนย์ใหญ่ของ isp เหล่านั้นดู แต่ถ้าไมดีขึ้นก็ลองหาเจ้าอื่นมาใช้งานเปรียบเทียบดู แต่แนะนำว่าอย่าพึ่งบอกเลิกเจ้าเก่าในทันที เพราะเจ้าใหม่อาจไม่ได้ดีกว่าก็เป็นได้ครับ
   2.3 คอมเสียบ่อย ผมเคยเขียนเรื่องนี้ไปแล้วว่าคอมพิวเตอร์สำหรับร้านเน็ตควรใช้ไม่เกิน 3 ปี เพราะหลังจากนี้เราจะปวดหัวกับการมานั่งซ่อมมัน แถมต้องหาอุปกรณ์ทดแทนให้ตรงรุ่นอีกต่างหาก
   2.4 ระบบมีปัญหา เกมส์แลค เกมส์กระตุก เครื่องอืด เครื่องค้าง จอฟ้า อันนี้เกิดจากการวางระบบเป็นส่วนใหญ่ หากเป็นการจ้างวางระบบคุณควรติดต่อผู้วางระบบ และแจ้งปัญหาที่คุณพบเพื่อให้ช่างแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่หากวางระบบด้วยตัวเอง คุณก็ต้องแก้ปัญหาเหล่านั้นด้วย อย่าปล่อยไว้จนลูกค้าหนีไปเล่นร้านอื่นหมด

3. อยากทำธุรกิจอื่น จริงๆแล้วธุรกิจร้านเน็ต คุณไม่จำเป็นต้องเฝ้าตลอดเวลา หากวางระบบดีๆแล้ว คุณสามารถจ้างพนักงานดูร้านแทนคุณได้ เรื่องเงินๆทองๆ ก็มีโปรแกรมคุมร้านช่วย เรื่องความเรียบร้อยภายในร้านคุณก็รีโมทดูจากกล้องวงจรปิดได้ครับ

ขอขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามกันมาจนครบ 1 ปี เช่นเคยผมหวังว่าทุกๆบทความในบล็อกนี้ที่ผมเขียนจากประสบการณ์ส่วนตัวจะมีประโยชน์กับทุกๆท่านไม่มากก็น้อย และติดตามกันได้ที่ Facebook Fanpage นะครับ